เหนือสุดยอดในสยาม ชายแดนสามแผ่นดิน ถิ่นวัฒนธรรมล้านนา | ||||||||
ท่ามกลางอ้อมกอดของภูเขา เมืองเล็กๆ แห่งหนึ่งซ่อนตัวอยู่อย่างสงบ แม่น้ำสายสั้นๆ ไหลผ่านซอกหินที่มีตะไคร่น้ำสีเขียวสด เจดีย์สีทองอร่าม ต้องกับ | ||||||||
ประวัติเมืองเชียงราย เมื่อพญามังรายได้ทรงรวบรวมหัวเมืองฝ่ายเหนือในอาณาเขตรอบๆได้แล้ว จึงทรงกรีฑาทัพไปแสดงฝีมือในการยุทธต่อหัวเมืองฝ่ายใต้ลงมา จึงได้ไปรวมพล ณ เมืองลาวกู่เต้า และหมอควาญได้นำช้างมงคลของพญามังรายไปทอด (ผูก) ไว้ในป่าหัวดอยทิศตะวันออกแล้วเกิดพลัดหายไป พญามังราย จึงได้เสด็จติดตามรอยช้างไปจนถึงดอยทองริมแม่น้ำกกนัทธี ได้ทัศนาการเห็นภูมิประเทศเป็นที่ราบลุ่ม อุดมสมบูรณ์เป็นชัยภูมิที่ดี จึงได้สร้างเมืองใหม่ขึ้นในที่นั่น ให้ก่อปราการโอบเอาดอยจอมทองไว้ในท่ามกลางเมือง ขนานนามเมืองว่า “เวียงเชียงราย” ตามพระนามของพญามังรายผู้สร้าง เมื่อวันที่ 26 มกราคม พ.ศ. 1805 ดังนั้น จึงได้นำรูปช้างสีขาวใต้เมฆแห่งความรุ่งเรือง และอยู่เย็นเป็นสุข บนพื้นสีม่วงของวันเสาร์ซึ่งตรงกับ วันประสูติของพญาเม็งราย เป็นสีประจำจังหวัด เชียงราย เป็นดินแดนที่อยู่เหนือสุดของประเทศไทย ตั้งอยู่ในที่ราบลุ่มแม่น้ำกก ที่เรียกว่า “แอ่งเชียงราย” ซึ่งเป็นที่ราบลุ่มค่อนข้างกว้างใหญ่ และอุดมสมบูรณ์ ห่างจากกรุงเทพฯเป็นระยะทาง 785 กิโลเมตร มีพื้นที่ราว 11,678 ตารางกิโลเมตร หรือ 7,298,981 ไร่โดยประมาณ | ||||||||
สภาพภูมิประเทศ พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นภูเขา จัดอยู่เขตเทือกเขาในทวีปตอนเหนือ (NORTH CONTINENTAL HIGHLAND) มีลักษณะป็นเทือกเขาสูงทอดยาวตามแนวเหนือ - ใต้ มีที่ราบสูงเป็นช่วงๆ อยู่ทั่วไปในเขตอำเภอแม่สรวย อำเภอเวียงป่าเป้า และอำเภอเชียงของ เทือกเขาในเขตจังหวัดเชียงรายมีความสูงอยู่ระหว่าง 1,500 - 2,000 เมตร จากระดับน้ำทะเล ส่วนบริเวณที่ราบและหุบเขา อยู่ในช่วงความสูง 350 - 600 เมตร จากระดับน้ำทะเล บริเวณที่ราบที่สูงที่สุดคือ “ที่ราบลุ่มแม่น้ำลาว” บริเวณตอนใต้ของอำเภอเวียงป่าเป้า ส่วนบริเวณที่มีลักษณะเป็นที่ราบต่ำ คือแถบที่ราบลุ่มแม่น้ำอิง ทางตอนใต้ของอำเภอเชียงของ สภาพภูมิอากาศ การที่มีป่าไม้และเทือกเขาสูงเป็นจำนวนมาก ทำให้เชียงรายได้รับอิทธิพลจากลมมรสุมจากทะเลน้อยมาก ซึ่งเป็นผลให้ฤดูร้อนกับฤดูหนาวมีความแตกต่างกันค่อนข้างมาก กล่าวคือ ช่วงเดือนธันวาคมของทุกปีจะมีอุณหภูมิเฉลี่ยราว 8.7 องศาเซลเซียส แต่ในเดือนเมษายนกลับมีอุณหภูมิค่อนข้างสูง โดยใน พ.ศ. 2541 เป็นปีที่มีอุณหภูมิสูงถึง 36.4 องศาเซลเซียส | ||||||||
การปกครองและอาณาเขต | ||||||||
การปกครองแบ่งออกเป็น 18 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมือง อำเภอเชียงของ อำเภอพาน อำเภอแม่จัน อำเภอเชียงแสน อำเภอแม่สาย อำเภอแม่สรวย อำเภอเวียงป่าเป้า อำเภอป่าแดด อำเภอเวียงชัย อำเภอพญาเม็งราย อำเภอเทิง อำเภอเวียงแก่น อำเภอแม่ฟ้าหลวง อำเภอขุนตาล อำเภอแม่ลาว อำเภอเวียงเชียงรุ้ง และอำเภอดอยหลวง | ||||||||
|
หอยเก่า เขาตระหง่าน ธารสวย รวยเกาะเพาะปลูกปาล์ม งามหาดทรายใต้ทะเลสวยสด มรกตอันดามัน“กระบี่ เมืองน่าอยู่ ผู้คนน่ารัก” คำขวัญสั้นๆ ที่บอกเล่าความเป็นกระบี่ได้อย่างน่ารักและตรงตัวแบบไม่ต้องอธิบาย รวมถึงมนต์เสน่ห์ของ “มรกตแห่งทะเลอันดามัน” ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทุกมุมโลก ให้แวะมาทักทายหมู่เกาะน้อยใหญ่กว่า 130 เกาะอย่างไม่รู้เบื่อ เพราะไม่เพียงได้รีแลกซ์อยู่ท่ามกลางสวรรค์บนผืนน้ำ แต่เมื่อขึ้นฝั่งก็จะเจอกับการต้อนรับของเหล่าบรรดาร้านค้า ร้านอาหาร หลากสไตล์แต่บริการกันด้วยใจจริงๆ วันนี้คนไทยลองถามใจตัวเองดูสิว่า คุณเคยมาอยู่ในอ้อมกอดของจังหวัดนี้แล้วหรือยัง ถ้ายังรับรองว่าคุณจะรักเมืองไทยขึ้นอีกมากโข จนไม่อยากจากไปไหนอีกเลยเมืองชายทะเลในฝันงดงามด้วยหาดทรายขาว น้ำทะเลใส ปะการังสวย ถ้ำโตรกชะโงกผา และหมู่เกาะน้อยใหญ่นับไม่ถ้วน รวมกันเป็นมนต์เสน่ห์ที่สร้างความประทับใจให้แก่นักท่องเที่ยวที่มาเยือน กระบี่เป็นจังหวัดที่ตั้งอยู่ริมฝั่งทะเลอันดามัน อยู่ห่างจากกรุงเทพฯ 814 กิโลเมตร มีเนื้อที่ 4,708 ตารางกิโลเมตร กระบี่ ประกอบด้วยภูเขา ที่ดอน ที่ราบ หมู่เกาะน้อยใหญ่กว่า 130 เกาะ อุดมไปด้วยป่าชายเลน ตัวเมืองกระบี่มีแม่น้ำยาวประมาณ 5 กิโลเมตร ไหลผ่านลงสู่ทะเลอันดามันที่ตำบลปากน้ำ นอกจากนี้ยังมีคลองปกาสัย คลองกระบี่ใหญ่ และคลองกระบี่น้อย มีต้นกำเนิดจากเทือกเขาที่สูงที่สุดในจังหวัดกระบี่ คือ เทือกเขาพนมเบญจา จากหลักฐานทางโบราณคดีสันนิษฐานได้ว่า บริเวณเมืองกระบี่เคยเป็นแหล่งชุมชนโบราณที่ เก่าแก่มากแห่งหนึ่งในประเทศไทย ตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์และต่อเนื่องมาจนถึงสมัยประวัติศาสตร์ กล่าวกันว่าดินแดนนี้แต่เดิมคือเมืองบันไทยสมอ 1 ใน 12 เมืองนักษัตรที่ใช้ตราลิงเป็นตราประจำเมือง ขึ้นกับอาณาจักรนครศรีธรรมราช นอกจากนี้ ยังมีข้อสันนิษฐานเกี่ยวกับชื่อเมืองกระบี่ว่า อาจมาจากความหมายที่ แปลว่าดาบ เนื่องจากมีตำนานเล่าสืบต่อกันมา เกี่ยวกับการขุดพบมีดดาบโบราณก่อนที่จะสร้างเมือง ลักษณะภูมิประเทศ สภาพพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นดินเหนียวปนทรายและดินร่วน จึงเหมาะแก่การทำสวนยางพารา สวนปาล์ม สวนมะม่วงหิมพานต์ สวนกาแฟ และสวนมะพร้าว กระบี่ ได้รับอิทธิพลจากลมมรสุมตะวันตกเฉียงเหนือ จึงมีเพียง 2 ฤดูเท่านั้น คือ ฤดูร้อนซึ่งจะเริ่มตั้งแต่เดือนมกราคมถึงเมษายน และฤดูฝนเริ่มตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ถึงธันวาคม อาณาเขตติดต่อและการปกครอง กระบี่ อยู่ห่างจากกรุงเทพมหานครตามเส้นทางถนนเพชรเกษม (หมายเลข 4) ประมาณ 814 ก.ม. มีเนื้อที่ประมาณ 4,708 ตารางกิโลเมตร โดยมีอาณาเขตดังนี้
|
การเดินทางจากกรุงเทพ ฯ
รถยนต์
1. จากกรุงเทพฯ ใช้ทางหลวงหมายเลข 4 ผ่านจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร ระนอง พังงากระบี่ ระยะทาง 946 กิโลเมตร 2. จากกรุงเทพฯ ใช้ทางหลวงหมายเลข 4 ถึงจังหวัดชุมพร จากชุมพรใช้ทางหลวงหมายเลข 41 ผ่านอำเภอหลังสวน อำเภอไชยา จังหวัดสุราษฎร์ธานี เข้าอำเภอเวียงสระ ใช้ทางหลวงหมายเลข 4035 ถึงอำเภออ่าวลึก แล้ววกเข้าทางหลวงหมายเลข 4 อีกครั้งหนึ่ง ถึงจังหวัดกระบี่ ระยะทาง 814 กิโลเมตร
3. จากภูเก็ต การเดินทางโดยรถยนต์จากภูเก็ต ใช้ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 402 และหมายเลข 4 ระยะทาง 176 กิโลเมตร
รถโดยสารประจำทาง
มีรถออกจากสถานีขนส่งสายใต้ ถนนบรมราชชนนี ไปจังหวัดกระบี่ทุกวัน ระยะเวลาการเดินทางประมาณ 12ชั่วโมง สอบถามข้อมูลโทร. 0 2435 1199 จองตั๋วโดยสารโทร. 0 2435 5605 หรือ www.transport.co.thสำหรับบริษัทเดินรถเอกชน ติดต่อ
บริษัท ลิกไนท์ จำกัด โทร. 0 2435 7428
บริษัท ศรีสุเทพทัวร์ จำกัด โทร. 0 2884 5599
จากสถานีขนส่งภูเก็ต มีบริการรถโดยสารประจำทางไปจังหวัดกระบี่ทุกวัน ระยะเวลาเดินทางประมาณ
3 ชั่วโมง สอบถามได้ที่สถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดภูเก็ต โทร. 0 7621 1977
บริษัท ลิกไนท์ จำกัด โทร. 0 2435 7428
บริษัท ศรีสุเทพทัวร์ จำกัด โทร. 0 2884 5599
จากสถานีขนส่งภูเก็ต มีบริการรถโดยสารประจำทางไปจังหวัดกระบี่ทุกวัน ระยะเวลาเดินทางประมาณ
3 ชั่วโมง สอบถามได้ที่สถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดภูเก็ต โทร. 0 7621 1977
รถไฟ
จากสถานีรถไฟกรุงเทพฯ มาลงที่สถานีรถไฟจังหวัดสุราษฎร์ธานี สถานีรถไฟจังหวัดตรัง หรือ
สถานีรถไฟทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช จากนั้นต่อรถโดยสาร หรือรถแท็กซี่รับจ้างเข้าจังหวัดกระบี่
สอบถามรายละเอียดได้ที่
หน่วยบริการเดินทาง การรถไฟแห่งประเทศไทย :สถานีรถไฟทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช จากนั้นต่อรถโดยสาร หรือรถแท็กซี่รับจ้างเข้าจังหวัดกระบี่
สอบถามรายละเอียดได้ที่
โทร. 1690, 0 2223 7010 หรือ http://www.railway.co.th/
เครื่องบิน
บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) จำกัด สายการบินแอร์เอเซีย และสายการบินวันทูโก มีบริการ
เครื่องบินโดยสาร กรุงเทพฯ - กระบี่ ทุกวัน ติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่
เครื่องบินโดยสาร กรุงเทพฯ - กระบี่ ทุกวัน ติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่
- บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) : โทร. 1566 , 0 2280 0060 หรือ www.thaiairways.com
- ท่าอากาศยานกระบี่ : โทร. 0 7569 1940
- สายการบินแอร์เอเซีย : โทร. 0 2515 9999 หรือ www.airasia.com
- สายการบินวันทูโก : โทร. 1126, 0 2229 4100 หรือ www.fly12go.com
การเดินทางท่องเที่ยวภายในจังหวัด
จากตัวเมืองกระบี่ มีรถโดยสารประจำทาง (สองแถว) ไปยังสถานที่ซึ่งเป็นที่ตั้งของแหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ เช่น บ้านห้วยโต้ บ้านหนองทะเล บ้านเขาทอง หาดนพรัตน์ธารา สุสานหอย อ่าวนาง บ้านคลองม่วง
บ้านในสระ อำเภอเขาพนม อำเภอเหนือคลอง อำเภอคลองท่อม บ้านบ่อม่วง บ้านหัวหิน บ้านคลองพน
อำเภอลำทับ อำเภออ่าวลึก อำเภอปลายพระยา สามารถขึ้นรถได้ที่ด้านหน้าห้างสรรพสินค้าโว้ค ถนนมหาราชในตัวเมืองกระบี่ ส่วนสถานที่ท่องเที่ยวอื่นสามารถใช้บริการรถแท็กซี่ หรือเช่ารถจากบริษัทนำเที่ยวต่างๆ ในตัวเมืองกระบี่
บ้านในสระ อำเภอเขาพนม อำเภอเหนือคลอง อำเภอคลองท่อม บ้านบ่อม่วง บ้านหัวหิน บ้านคลองพน
อำเภอลำทับ อำเภออ่าวลึก อำเภอปลายพระยา สามารถขึ้นรถได้ที่ด้านหน้าห้างสรรพสินค้าโว้ค ถนนมหาราชในตัวเมืองกระบี่ ส่วนสถานที่ท่องเที่ยวอื่นสามารถใช้บริการรถแท็กซี่ หรือเช่ารถจากบริษัทนำเที่ยวต่างๆ ในตัวเมืองกระบี่
ฤดูการท่องเที่ยว
งานกระบี่เบิกฟ้าอันดามัน
จัดขึ้นตรงกับเดือนพฤศจิกายนของทุกปี เป็นงานเปิดฤดูกาลท่องเที่ยวของจังหวัด มีกิจกรรมรื่นเริงและการแสดงทางวัฒนธรรมมากมาย และการแข่งขันกีฬาทางน้ำหลายประเภท
งานประเพณีสารทเดือนสิบ
เป็นประเพณีสำคัญของชาวใต้เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้บรรพบุรุษผู้ล่วงลับ ขนมที่ขาดไม่ได้คือ ขนมลา
ขนมเจาะหู ขนมพอง ขนมบ้า และขนมกงหรือไข่ปลา
ขนมเจาะหู ขนมพอง ขนมบ้า และขนมกงหรือไข่ปลา
งานประเพณีชักพระ
เดิมจัดเป็นบุษบกพนมเรือสลักลวดลายสวยงาม มีการละเล่นเพลงพื้นเมือง เช่น เพลงเรือ (เพลงชักพระ) ปัจจุบันได้นำยอดพนมเรือใส่รถแทนเรือ การละเล่นเพลงชักพระจึงหมดไป
ประเพณีลอยเรือชาวเล
ที่เกาะลันตานับเป็นงานประเพณีเก่าแก่ของชาวเลที่หาดูได้ยาก งานนี้จัดตรงกับวันเพ็ญเดือน ๖ และ
วันเพ็ญเดือน ๑๑ ของทุกปี โดยกลุ่มชาวเลในบริเวณเกาะลันตา และเกาะใกล้เคียงจะมาชุมนุมกันทำพิธี
ลอยเรือเพื่อสะเดาะเคราะห์ ณ ชายหาดใกล้ ๆ กับบ้านศาลาด่าน ในพิธีจะมีการร้องรำทำเพลง มีการร่ายรำรอบลำเรือด้วยจังหวะและทำนองเพลงรองเง็ง
วันเพ็ญเดือน ๑๑ ของทุกปี โดยกลุ่มชาวเลในบริเวณเกาะลันตา และเกาะใกล้เคียงจะมาชุมนุมกันทำพิธี
ลอยเรือเพื่อสะเดาะเคราะห์ ณ ชายหาดใกล้ ๆ กับบ้านศาลาด่าน ในพิธีจะมีการร้องรำทำเพลง มีการร่ายรำรอบลำเรือด้วยจังหวะและทำนองเพลงรองเง็ง
หมายเลขโทรศัพท์ที่จำเป็น
ศูนย์ประสานงานการท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่ | โทร. 0 7562 2163 |
สำนักงานจังหวัด | โทร. 0 7561 1381 |
ประชาสัมพันธ์จังหวัด | โทร. 0 7561 2611 |
สถานีตำรวจภูธร | โทร. 0 7561 1222 |
ที่ทำการไปรษณีย์ - โทรเลข | โทร. 0 7561 1050 |
สถานีขนส่ง | โทร. 0 7561 1804 |
ที่ทำการตรวจคนเข้าเมือง | โทร. 0 7561 1097 |
กรมศุลกากร | โทร. 0 7561 1350 |
โรงพยาบาลกระบี่ | โทร. 0 7561 1227, 1669 |
ตัวแทนจำหน่ายบัตรโดยสารเครื่องบิน | โทร. 0 7561 1348, 0 7561 1389 |
ททท. สำนักงานจังหวัดกระบี่ | โทร. 0 7562 2163 |
****************************************
กระบี่ - เกร็ดความรู้ที่ควรทราบ
Do
- มากระบี่ต้องเดินทางมาที่สระมรกต เพราะนอกจากจะเป็นสถานที่อันซีนแล้ว ยังสามารถท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี ขอแนะนำให้มาช่วงเช้าและเย็นโดยเฉพาะฤดูร้อนที่ท้องฟ้าสดใสแดดแรง เพราะสีของ
สระน้ำจะเป็นสีเขียวมรกตสดใสสะท้อนเงางาม - หลายคนอาจไม่ทราบว่าจังหวัดกระบี่ก็มี “ถนนคนเดิน” ซึ่งอยากแนะนำให้มาเดินเล่น เพื่อใกล้ชิด
วิถีชีวิตแบบชาวกระบี่แท้ๆ และตามสองข้างทางเต็มไปด้วยสีสันทั้งร้านค้าและการแสดงต่างๆ อาทิ ร้านขายเสื้อยืดเพ้นท์ลายธรรมชาติที่โดดเด่นของจังหวัด ซุ้มขายต้นไม้พันธุ์หายาก ผลงานศิลปะจากฝีมือเด็กๆ การโชว์ฝีมือเล่นลูกข่าง ถนนคนเดินอยู่ที่ถนนมหาราช ซอย 8
- มาถึงกระบี่ทั้งทีต้องชิม “หอยชักตีน” อาหารขึ้นชื่อของจังหวัดกระบี่
Don't
Let You Know
|